ลำพูน รับนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนนในการประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 3/2568 เตรียมพร้อมแนวทางและการรณรงค์รับเทศกาลปีใหม่ 2569 และสงกรานต์ 2569 

         วันนี้(วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2568) ณ ห้องประชุม POC ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นำคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัด จังหวัดลำพูนและระดับอำเภอ รับมอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติจากคณะกรรมการศูนย์ฯ ส่วนกลาง ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์จากห้องประชุม 1 ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. โดยมีนาย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมฯ

        ที่ประชุมมีการแจ้งให้ส่วนกลางและภูมิภาคทราบว่า ในทุกสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายนทุกปี จะมีการจัดกิจกรรมวันรณรงค์ เนื่องในวันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน (World Day Remembrance for Road Traffic Victims) โดยองค์การอนามัยโลกและองค์กรความร่วมมือเพื่อความปลอดภัยทางถนนแห่งสหประชาชาติ ได้สนับสนุนให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จัดกิจกรรมขึ้น ส่วนในปี 2568 จะตรงกับวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ได้ลงนามในสารนายกรัฐมนตรีเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศปถ. จังหวัด/ ศปถ. อำเภอ/ ศปถ. อปท. และภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน นำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อช่องทางต่าง ๆ เพื่อรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน รวมถึงนำการอ่านสารนายกรัฐมนตรี เผยแพร่เพื่อรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ส่วนในระดับภูมิภาค ให้จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องใน "วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน" ประจำปี 2568 พร้อมกันทั่วประเทศ หรือตามความเหมาะสม โดยให้ ผวจ. อ่านสารนายกรัฐมนตรีและยืนสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน และจัดกิจกรรมโดยบูรณาการจัดกิจกรรมร่วมกับภาคีภาคเอกชน สโมสรโรตารีจังหวัด เครือข่าย สอจร.และภาคีเครือข่ายในจังหวัด ประสานหน่วยงานภาครัฐ ภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนนในจังหวัด ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนและทุกภาคส่วนเข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ฯ 

        ประเด็นต่อมา ที่ประชุมได้แจ้งให้ทราบถึงกำหนดการจัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ เนื่องใน "วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน" ในวันที่ 21 มกราคม 2569 ครั้งนี้ กำหนดแนวคิดว่า "หยุดรถเพื่อชีวิต เคารพสิทธิ์บนทางม้าลาย" (Stop for Safe Life) พร้อมให้จัดกิจกรรมทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ตามบริบทของพื้นที่ เช่น ทางข้าม/ทางม้าลาย หน้าโรงเรียน โรงพยาบาล หน้าตลาด และชุมชนบริเวณที่มีประชาชนสัญจรไปมา เป็นต้น เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัตเพื่อไม่เกิดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน

        นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ร่วมรับฟังผลการประเมินผลและการขับเคลื่อนนโยบายความปลอดภัยทางถนน นำเสนอโดย ผู้แทน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย : TDR) ตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2565 - 2570 ที่กำหนดให้มีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานช่วงครึ่งทางของแผนฯ (Midterm Review) โดยมีผลการศึกษา ประกอบด้วย (1) Enforcement: การบังคับใช้กฎหมายที่มียังไม่ทั่วถึง ไม่นำไปสู่การป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงโดยเป็นผลจากอัตราโทษทางกฎหมายที่ยังไม่รุนแรงพอที่จะสร้างความเกรงกลัว ขาดการใช้เทคโนโลยีตรวจจับที่ครอบคลุม มีความล่าช้าในกระบวนการบังคับใบสั่ง และขาดการสื่อสารสาธารณะเพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย (2) Environment: โครงสร้างพื้นฐานถนนยังไม่ปลอดภัยเพียงพอ โดยเป็นผลจากโครงข่ายถนนที่ยังไม่สอดคล้องกับหน้าที่และความปลอดภัยของผู้ใช้ทุกกลุ่ม การกำหนดความเร็วของถนนยังไม่สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงและบริบทพื้นที่ การตรวจประเมินถนนยังจำกัด ไม่ครอบคลุมทุกระยะ และไม่เชื่อมโยงกับ การวางแผนงบประมาณและการลงทุน และการจัดการความเร็วที่ยังไม่สัมพันธ์กับระดับความเสียงของถนนและสภาพพื้นที่ (3) Education: ระบบใบอนุญาตขับรถยังไม่สร้างทักษะที่เพียงพอให้ผู้ขับขี่ และยังไม่สามารถคัดกรองผู้ไม่มีใบอนุญาตขับรถได้ โดยเป็นผลมาจากระบบฯ ที่กระบวนการทดสอบยังไม่มุ่งเน้นทักษะการขับขี่เชิงป้องกัน ขาดแนวคิดด้านลำดับขั้นในเงื่อนไขการถือครองใบอนุญาตขับรถชั่วคราว ขาดการบังคับใช้กฎหมายที่ครอบคลุมและเข้มงวดเพื่อคัดกรองผู้ไม่มีใบอนุญาตขับรถ และการเข้าไม่ถึงระบบบฯ ที่สูงขึ้นของกลุ่มเด็กและเยาวชน และผู้สูงอายุ ทั้งนี้ โครงการฯ มีข้อเสนอแนะสอดรับผลการศึกษาดังกล่าว คือ  (1) Enforcement : เพิ่มความครอบคลุมของการบังคับใช้กฎหมาย และสื่อสารสาธารณะ (2) Environment : กำหนดมาตรฐานถนนปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม เสริมความต่อเนื่องของการประเมินถนนและการแก้ไขจุดเสี่ยง พัฒนาศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และใช้ข้อมูลความเร็วเพื่อการวางแผนและประเมินผล
(3) Education : ปรับปรุงการอบรมและทดสอบให้มุ่งเน้นทักษะการขับขี่เชิงป้องกันมากขึ้น กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับผู้ถือครองใบอนุญาตขับรถชั่วคราว ให้อำนาจเจ้าพนักงานจราจรระงับใช้รถเมื่อพบการขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ และศึกษาแนวทางเพิ่มการเข้าถึงระบบใบขับขี่

        ในช่วงท้าย ที่ประชุมมีการร่วมพิจารณา(ร่าง) แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด พ.ศ. 2569 ภายใต้ชื่อ "ขับขี่ปลอดภัย ลดความเร็ว ลดอุบัติเหตุ"  เป้าหมายเพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ ในช่วงเทศกาลปีใหม่/ สงกรานต์ พ.ศ. 2569 ในช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน ในเทศกาลปีใหม่ระหว่างวันอังคารที่ 30 ธันวาคม 2568 - วันจันทร์ที่ 5 มกราคม 2569 ) เทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันศุกร์ที่ 10 - วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2569 ประกอบด้วย มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 5 มาตรการ ได้แก่ 1) ด้านการบริหารจัดการ เช่น การจัดตั้งศูนย์ฯ ระดับต่าง ๆ การจัดทำแผนปฏิบัติการ การจัดกิจกรรมทางศาสนา การจัดทำ "ประชาคมชุมชน/หมู่บ้าน การเคาะประตูบ้าน ด่านครอบครัว ด่านชุมชน เพิ่ม อสม. ร่วมกับฝ่ายปกครองในการเข้าถึงชุมชน เพิ่มการวางแผนการตั้งจุดตรวจและแผนการตรวจ เพิ่มการสอบถามรถที่มีป้ายทะเบียนของจังหวัดที่อยู่ไกลจากพื้นที่ว่าเดินทางมาจากที่ใด สอบถามการใช้ยา สังเกตความอ่อนเพลีย ง่วงซึม และพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ให้ความสำคัญกับการเพิ่มจำนวนชุดเคลื่อนที่เร็ว ให้จัดทำข้อมูลนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุ และวางแนวทางป้องกัน
2) ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม เช่น กำหนดให้ถนนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกเส้นทางเป็นถนนปลอดภัยและกำหนดมาตรการแนวทางการแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบริเวณทางร่วม ทางแยก ตรวจสอบสิ่งอันตรายข้างทาง เพิ่ม ประสานความร่วมมือกันกรมชลประทาน ในการแก้ปัญหาเลียบคลองชลประทาน เพื่อจัดการจุดเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ 3) ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ เช่น กำกับ ควบคุม ดูแลรถโดยสารสาธารณะ พนักงานขับรถและพนักงานประจำรถให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมายอย่างเคร่งครัด และการตรวจสอบสภาพรถตามที่กฎหมายกำหนด เพิ่มจุดตรวจจับความเร็วหรือจุดตรวจเสมือนในพื้นพื้นที่ เพิ่ม การประชาสัมพันธ์เรื่องการใช้ยานพาหนะที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ แนะนำให้นำไปตรวจสอบสภาพ แก้ไขให้อยู่ในสภาพที่พร้อมก่อนนำมาใช้ ประชาสัมพันธ์ช่องทางรับแจ้งปัญหารถโดยสารสาธารณะหรือรถบรรทุกขนาดใหญ่ โทร 1584 /  4) ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เช่น รณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรการทางกฎหมาย การตัดคะแนนความประพฤติ และจัดทำบัญชีเสี่ยงในพื้นพื้นที่ เช่น บุคคลเสี่ยง ร้านค้าเสี่ยง สถานที่จัดงานเสี่ยง โดยใช้กลไกของอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายระดับจังหวัด นำแบบบันทึกการสังเกตภาวะ มึนเมาสุรา ใช้ในการวินิจฉัยอาการมึนเมาสุรา ในด่านครอบครัว และด่านชุมชน กับกลุ่มผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุ  เพิ่ม ผู้นำชุมชนตักเดือนผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง กำชับผู้ปกครองไม่ปล่อยให้เด็กออกมาขับขี่บนท้องถนนในช่วงกลางคืน สื่อสารกลุ่มผู้ขับขี่สูงอายุให้ขับขี่ด้วยความระวัง ชะลอการตัดสินใจที่เสี่ยง ใช้รถที่สภาพปลอดภัย มีประกัน มี พรบ. หรือให้ลูกหลานขับแทน เพิ่มประชาสัมพันธ์ เรื่องบทลงโทษในกรณีที่ได้มีการกระทำความผิดซ้ำ ผู้ขับขี่ที่ปฏิเสธการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ การจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่มีใบอนุญาต พิจารณาขอความร่วมมือให้ผู้ถูกคุมประพฤติเป็นอาสาสมัครในการช่วยดูกล้อง CCTV ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการตรวจสอบการกระทำผิดกฎจราจร เป็นหนึ่งในกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ประชาสัมพันธ์เรื่องการทำประกันภัยประเภท ไมโครอินชัวรันส์ (ประกันภัยรายย่อย เบี้ยประกันราคาถูก เข้าถึงได้ง่าย เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก) โดยสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างน้อย 15 วัน ก่อนการเดินทาง ประชาสัมพันธ์ยาที่ออกฤทธิ์ทำให้ง่วง ซึม ผู้ขับขี่ที่ทานยาดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงต่อการหลับใน ขอให้พัก ณ จุดพักรถก่อนอย่างน้อย 10 นาที หรือจนกว่าอาการดีขึ้น หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเพื่อทำให้ร่างกายตื่นตัว และ 5) ด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ เช่น เตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และหน่วยบริการแพทย์ฉุกเฉิน ระบบติดต่อสื่อสาร สั่งการ ประสานงาน และประชาสัมพันธ์ระบบช่วยเหลือต่าง ๆ เพิ่ม ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ผ่านทาง 1669 และระบบ IDEMS ที่สามารถแจ้งพิกัดการเกิดเหตุ โดยสื่อสารผ่านทาง VDO call ให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ประสาน คปภ.จังหวัด และยุติธรรมจังหวัด เครือข่ายสภาองค์กรของผู้บริโภค และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ดูแลครอบครัวผู้ประสบอุบัติเหตุให้ได้รับการช่วยเหลือ เยียวยา ตามที่กฎหมายกำหนดอย่างครบถ้วน ในการนี้ ที่ประชุมเห็นชอบร่างแผนฯ พร้อมนำไปเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ลงสู่ภาคปฏิบัติต่อไป 

      อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้กำชับให้นายอำเภอทุกอำเภอประสานกับกรมทางหลวง ทางหลวงชนบท และ อปท. เพื่อให้ประเมินจะดเสี่ยงที่กำลังก่อสร้าง ซ่อมแซม ไฟส่องสว่าง ป้ายเตือน ให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยสูงสุด ฝากย้ำการบังคับใช้กฎหมายจราจร เข้มงวดมาตรการตามด่านชุมชนด้วย