ผู้ว่าฯ ลำพูน พร้อมภาคส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ฝายพญาอุต(ลำน้ำปิง) เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการป้องกัน แก้ไข ปัญหาน้ำท่วม - น้ำแล้ง จังหวัดลำพูนในระยะยาว

          วันนี้ (วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม 2568) บริเวณฝายพญาอุต ต.ริมปิง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้พบปะ พูดคุย หารือ กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดลำพูน ได้แก่ โครงการชลประทานลำพูน สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง การประปาส่วนภูมิภาค สาขาลำพูน อำเภอเมืองลำพูน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ เนื่องจาก เป็นช่วงฤดูฝนที่ต้องเฝ้าระวังปัญหาอุทกภัย 
           ฝายพญาอุต เป็นฝายเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ขณะนี้ประสิทธิภาพลดลง ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือน เรือกสวนไร่นา ของประชาชนด้านเหนือน้ำ ก่อนหน้านี้ เมื่อปี พ.ศ. 2532 กรมชลประทาน ได้ดำเนินการก่อสร้างฝ่ายพญาอุต เป็นโครงการชลประทานขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นฝ่ายสันมน ขนาดสูง 2.50 เมตร ยาว 65 เมตร ช่องระบายทราย จำนวน 3 ช่อง พื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 3,200 ไร่ ปิดกั้นลำน้ำปิงรอยต่อระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับจังหวัดลำพูน และได้ถ่ายโอนภารกิจให้แก่เทศบาลตำบลริมปิง เมื่อวันที่ 16พฤษภาคม 2546 ตามแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปัจจุบันฝายพญาอุตและอาคารประกอบเกิดความเสียหาย เนื่องจาก ใช้งานมานาน ประตูระบายทราย มีขนาด 1.20 เมตร สูง 2.50 เมตร จำนวน 3 ช่อง ไม่สามารถใช้การได้ทำให้ประสิทธิภาพการระบายน้ำต่ำ ส่งผลให้ในฤดูน้ำหลากเกิดน้ำเอ่อล้นท่วนท่วมเข้าพื้นที่ด้านเหนือน้ำ ได้มีการซ่อมแซมอาคารป้องกันตลิ่งด้านท้ายฝาย โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังมีความต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยการปรับปรุงฝ่ายพญาอุตเป็นประตูระบายน้ำ เพื่อให้สามารถระบายน้ำดียิ่งขึ้น เป็นแหล่งกักเก็บน้ำต้นทุนในฤดูแล้งเพิ่มมากขึ้น โดยวางแผนก่อสร้างอาคารควบคุมการระบายน้ำพร้อมอาคาคารประกอบ จำนวน 1 แห่ง หากดำเนินการสำเร็จ จะสามารถเป็นแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุนในลำน้ำปิง ช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกราษฎรได้ประมาณ 3,200 ไร่ ในเขตพื้นที่ 2 ตำบล ได้แก่ตำบลริมปิงและตำบลต้นธง และยังจะเป็นแหล่งเก็บกักน้ำดี ผลิตน้ำประปาส่วนภูมิภาคในจังหวัดลำพูน (โรงสูบริมปิง) อัตราการใช้น้ำ 120,000 ลบ.ม./สัปดาห์ ด้วย
              จากแนวโน้มการปรับปรุง พัฒนา ดังกล่าว ส่งผลให้เกิดการหารือกันกับทุกภาคส่วนถึงแนวโน้มการดำเนินการในอนาคต ซึ่งหากฝายพญาอุตมีการปรับปรุงจากเดิม จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้ง ในระยะยาวของจังหวัดลำพูนได้ดีขึ้น ระหว่างนี้ กรมเจ้าท่ายังได้ดำเนินการสำรวจช่วงลำน้ำปิง – ลำน้ำกวง ในจังหวัดลำพูน เพื่อวางแนวทางการขุดลอกหรือป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมไปด้วยอีกทางหนึ่ง ดำเนินการไปแล้วประมาณร้อยละ 70 ทั้งสองลำน้ำ