จังหวัดลำพูน “ส่งรัก ส่งใจ ส่งลำไย ถึงทหารกล้า” มอบเป็นกำลังใจและแทนคำขอบคุณ ทุกการเสียสละเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติไทย

          วันนี้ (30 ก.ค. 2568) ที่ ศาลากลางจังหวัดลำพูน ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน มอบหมายให้ นายโยธิน ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน และนายชาตรี ธินนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนเกษตรกร และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันปล่อยขบวนรถขนส่งลำไย จำนวน 4.5 ตัน เพื่อนำไปส่งมอบให้กับทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เพื่อแจกจ่ายให้กับทหารแนวหน้าผู้ปกป้องแผ่นดินไทย จากเหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา 
         นายโยธิน ประสงค์ความดี กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำพูน ได้เฝ้าติดตามข่าวสารด้วยความห่วงใย พร้อมส่งกำลังใจไปถึงทหารแนวหน้าผู้ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โอกาสนี้ จังหวัดลำพูน โดยนายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกษตรกรชาวสวนลำไยลำพูน และผู้ประกอบการในพื้นที่ จึงได้ร่วมกันจัดส่งลำไยของดีจากจังหวัดลำพูน จำนวน 4,500 กิโลกรัม ถึงกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เพื่อนำไปส่งมอบต่อให้กับทหารในพื้นที่ ด้วยหวังว่าจะเป็นกำลังใจและแทนคำขอบคุณทุกการเสียสละเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติไทย
         ด้านนายชาตรี ธินนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวด้วยว่า ในปี 2568 จังหวัดลำพูน มีผลผลิตลำไยในฤดู รวมประมาณ 273,020 ตัน ผลผลิตจะออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม -  กันยายน ออกสู่ตลาดมากที่สุดช่วงปลายเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม พันธุ์ลำไยที่มีการเพาะปลูกกันจำนวนมาก และออกสู่ตลาดมากที่สุดในระยะนี้ ได้แก่ “ลำไยพันธุ์อีดอ” เหมาะสำหรับการบริโภคสดและแปรรูป ลำไยสดพันธุ์อีดอที่ออกในฤดูช่วงนี้ เป็นลำไยที่นับได้ว่าทานอร่อย รสชาตดีที่สุด คุณภาพดี หวาน กรอบ และมีกลิ่นหอม 
         ทั้งนี้ จังหวัดลำพูน เป็นจังหวัดที่มีแหล่งผลิตลำไยที่สำคัญของประเทศไทย โดยจากขนาดสัดส่วนพื้นที่ต่อจำนวนพื้นที่เพาะปลูก นับว่าเป็นจังหวัดที่มีการปลูกลำไยมากที่สุด จนกลายเป็นอาชีพหลักของประชาชน จังหวัดลำพูน ขึ้นชื่อว่าเป็น “มหานครแห่งลำไย” มีคำกล่าวที่แสดงให้เห็นถึงความผูกพันของลำไยกับชาวลำพูน ว่า“ลำไยคือลำพูน ลำพูนคือลำไย” และ “ลำไย คือลมหายใจของคนลำพูน”
     นอกจากนี้ จังหวัดลำพูน มีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสมกับการปลูกลำไย ไม่ว่าจะเป็นดิน น้ำ อากาศ และภูมิปัญญาท้องถิ่น ทำให้ได้ผลิตลำไยที่มีคุณภาพ รสชาติดี เนื้อหนา เม็ดเล็ก เนื้อล่อนเม็ด น้ำน้อย และจากความมหัศจรรย์ของลำไยลำพูน จึงทำให้ “ลำไยเบี้ยวเขียว” และ “ลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง” ของจังหวัดลำพูน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” (Geographical Indications) โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นการรับรองผลผลิตที่เกิดจากที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงแหล่งภูมิศาสตร์ “ลำไยลำพูน” จึงนับว่าเป็นลำไยที่รสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีที่เดียวในโลก.