รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองและผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 15 ลงพื้นที่จุดที่ 1 โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำเซาะบริเวณลำน้ำลี้ บ้านใหม่ศรีบุญเรือง หมู่ที่ 14 อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

          วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568) เวลา 10.30 น. บริเวณตลิ่งริมแม่น้ำลี้ บ้านใหม่ศรีบุญเรือง หมู่ที่ 14 ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะประธานคณะทำงานกลั่นกรองแผนงาน/โครงการ คณะที่ 1 สำหรับรองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) พร้อมด้วย นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 15 และคณะ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมของโครงการที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากงบกลางรายจ่ายประจำปี งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินตามอำนาจของรองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในพื้นที่จังหวัดลำพูน จำนวน 3 จุด ได้แก่ อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอเวียงหนองล่อง และอำเภอเมืองลำพูน โดยจุดนี้ถือเป็นจุดที่ 1 มีนายปรีชา สมชัย ปลัดจังหวัดลำพูน นายจรัล มณีจันทร์สุข นายอำเภอบ้านโฮ่ง นายรุ่งเพชร กันตบุตร ผอ.กลุ่มงานยุทธศาสตร์ สำนักงานจังหวัดลำพูน นายรังสรรค์ มณีรัตน์ ส.ส.เขต 2 นายมีแก้ว นุผาเรา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าพลู และบุคลากรองค์การบริหารส่วนตำบลป่าพลู ร่วมลงพื้นที่
          โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำเซาะบริเวณแม่น้ำลี้ บ้านใหม่ศรีบุญเรือง หมู่ที่ 14 ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง ความยาว 200 เมตร มีวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อป้องกันน้ำไหลหลาก กัดเซาะตลิ่งพัง ไม่ให้น้ำไหลทะลักท่วมพื้นที่ทำกิน ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและป้องกันปัญหาอุทกภัย ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้ได้รับผลผลิตดีและมีรายได้ และป้องกันความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนและสิ่งปลูกสร้างสาธารณะประโยชน์ต่างๆ
           สำหรับแม่น้ำลี้เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านในพื้นที่อำเภอบ้านโฮ่งจำนวน 4 ตำบล 34 หมู่บ้าน รวมระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตร และเมื่อถึงฤดูน้ำหลากจะมีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลลงแม่น้ำลี้ จากอำเภอทุ่งหัวช้าง อำเภอลี้ และไหลผ่านอำเภอบ้านโฮ่ง นอกจากนี้ ยังมีน้ำในลำน้ำแม่ลอบ ไหลสมทบลงสู่แม่น้ำลี้ ที่บ้านป่าพลู หมู่ที่ 2 ตำบลป่าพลู ทำให้มีปริมาณน้ำในแม่น้ำลี้สะสมเป็นจำนวนมาก ลักษณะของน้ำเป็นน้ำที่ไหลเชี่ยวและแรง ทำให้เกิดการกัดเซาะตะลิงแม่น้ำลี้ตลอดสาย เกิดการเปลี่ยนเส้นทางของน้ำ เกิดผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยและพื้นที่การเกษตร ของประชาชนโดยรอบบริเวณแม่น้ำลี้ ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าว คาดว่าจะมีครัวเรือนที่ได้รับผลประโยชน์ประมาณ 758 ครัวเรือน